
วัดล่ามช้าง
ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
วัดล่ามช้างตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของวัดเชียงมั่น อาจเรียกว่า “เวียงเล็ก” บริเวณดังกล่าวเป็นป่าไม้มีหนองน้ำใหญ่ พระยามังรายได้ทรงใช้เป็นสถานที่เลี้ยงและล่ามช้าง หรือเรียกว่า “เวียงเชียงช้าง” ต่อมาเพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานช้างพลายมงคลพระองค์จึงทรงสร้างวัดขึ้น ขนานนามว่า “วัดล่ามช้าง” ในบริเวณป่าไผ่ใกล้ๆ ใกล้กับวัดเชียงมั่น ซึ่งเคยเป็นบริเวณที่พระยามังรายโปรดให้สร้างโรงช้าง “พลายมงคล” ในระหว่างที่พระองค์สร้างเมืองเชียงใหม่
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม “กู่เจดีย์” วัดล่ามช้าง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเจดีย์วัดล่ามช้าง (ประตูด้านทิศ ตะวันตก) กู่เจดีย์หลังนี้หันหน้าไปทางทิศเหนือ สร้างด้วยการเรียงอิฐก่อขึ้นเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมผืนผ้า มีอาคารเรือนธาตุทึบตันและหลังคาเอนลาดฐานเขียงสี่เหลี่ยมลึกลงไปในใต้ชั้นดิน อิฐในบริเวณชั้นฐานค่อนข้างชำรุดเสียหายภายหลังการบูรณะได้ทำลวดบัวยกเก็จ 2 ชั้น ไว้ที่ฐานชั้นล่างสุด เรือนธาตุเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำมุขยื่นออกมาทางด้านทิศเหนือเป็นอุโมงค์แคบ ๆ โดยการเรียงอิฐสันเหลื่อม เป็นผนังอาคารและทำหลังคาโค้ง ซึ่งเป็นช่องโพรงหรืออุโมงค์แคบ ๆ อันเป็นที่มาของคำเรียกว่า “กู่เจดีย์” มุขด้านทางทิศเหนือนี้ยังพบช่องแสงรูปกากบาทสองที่ด้านผนังทั้งสองด้านภายในสุดก่อเรียง อิฐเป็นฐานสูงเรียบติดผนังอาคาร อาจใช้ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ผนังทั้งสองด้านมีการซุ้มเรียงอิฐ เป็นรูปสันเหลื่อม ผนังด้านในสุดมีช่องโพรงเล็ก ๆ ลึกเข้าไปในตัวผนังด้านบนและล่างมีลักษณะเป็นช่องโพรงคู่กัน ซึ่งอาจจะใช้ประดิษฐานพระพุทธรูป ส่วนเรือนธาตุอีกสามด้านทำเป็นซุ้มโค้งหน้านาง มีคล้ายคลึงกับซุ้มหน้าต่างของอาคารเจดีย์วิหารในศิลปะพุกาม ซุ้มโค้งดังกล่าวมีการประดับลวดลายปูนปั้นเป็นรูปลายพันธ์พฤกษาบริเวณกรอบซุ้มและรูปหงษ์ที่ปลายตัวเหงา ส่วนที่ชำรุดแสดงให้เห็นถึง การเรียงอิฐโค้งทำเป็นซุ้มประกอบเรือนธาตุทั้งสามด้าน เหนือเรือนธาตุเดิมชำรุดหักพังมีการบูรณะ ขึ้นใหม่โดยทำเป็นบัวหงายรับส่วนหลังคาเอนลาดในผังสีเหลี่ยมผืนผ้า ถัดขึ้นไปมีเพียงฐานบัวสี่เหลี่ยม เตี้ย ๆ 2 ชั้น ส่วนยอดนั้นพังทะลายลงจึงไม่ปรากฏเป็นรูปแบบใด
พระเจดีย์ทรงระฆังล้านนา เจดีย์วัดล่ามช้างเป็นเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนา ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของวิหาร มีอายุสมัยราวครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 21 โดยเจดีย์องค์เดิมได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์หลายยุคสมัยด้วยกัน รูปแบบเป็นเจดีย์ทรงระฆังฐานเขียงสี่เหลี่ยมยกสูงรองรับชุดฐานบัวสี่เหลี่ยมยกเก็จในผังสิบ สองเหลี่ยมทรงเตี้ย ท้องกระดานทำเป็นลูกแก้วอกไก่ 1 เส้น ฐานบัวสี่เหลี่ยมยกเก็จนี้ทั้งหมดจำนวน 3 ชั้น ซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป มีบัวถลาเตี้ย ๆ รองรับฐานเขียงทรงกลมทรงสูง ประดับด้วยรูปเทวดา พนม (ทำขึ้นใหม่หลังการบูรณะ) รองรับชุดฐานบัวปากระฆังทรงสูง องค์ระฆังคาดด้วยลูกแก้วอกไก่ ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีรองรับบัลลังก์ยกเก็จสูงและก้านฉัตร ในส่วนของฉัตรนั้นมีการบุดน ลวดลายแผ่นทองจังโกหุ้มไว้โดยรอบ ส่วนยอดเป็นปล้องไฉนและปียอด มีฉัตรขนาดเล็กประดับไว้ เหนือสุด